...บ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ท่ามกลางบรรยากาศยุโรป French country styleพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน กว้าง โปร่ง โล่ง ด้วยคอนเซ็ปต์การดีไซน์ แบบ Combine Space ที่มาพร้อม มุม Multi purpose area ที่สามารถออกแบบฟังก์ชันได้ตามไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ และวันนี้ inside2home จะขอพามารู้จักกับอีกหนึ่งโครงการดีๆ ที่สามารถจะตอบโจทย์ทั้งหมดได้ ในทำเลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพ อย่างโครงการ บ้านคู่/บ้านแฝด เพชรเกษม anya เพชรเกษม - สาย 4

          โครงการบ้านคู่/บ้านแฝด เพชรเกษม anya เพชรเกษม - สาย 4 เป็นอีกโครงการหนึ่งภายใต้แบรนด์ Land & Houses บนพื้นที่โครงการ 46 ไร่ จำนวนบ้าน 260 ยูนิต รูปแบบของบ้านถูกดีไซน์มาใหม่เน้นฟังก์ชันการใช้งานจริงมากขึ้น พร้อมขยายพื้นสีเขียวรอบบ้านให้กว้างขึ้น มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบด้วยกัน โดยตัวบ้านและภูมิทัศน์โดยรอบตกแต่งในสไตล์ French Country เพื่อให้ลูกบ้านได้สัมผัสบรรยากาศแห่งการผ่อนคลาย นอกจากนี้แล้วโครงการยังตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและง่ายต่อการเดินทาง เรียกว่าตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยและยังจะได้รับบรรยากาศที่ถูกใจของหลายๆ คนอีกด้วย

’ GREAT LOCATION ’

เชื่อมต่อทุกความสะดวกสบาย บนทำเลเพชรเกษม - สาย 4

          ตัวโครงการ anya เพชรเกษม - สาย 4 ตั้งอยู่บนถนนสวนหลวง ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ใกล้ถนนพุทธสาคร ซึ่งเป็นถนนใหญ่ กว้าง 8 เลน เพียง 100 เมตร โดยสามารถเชื่อมต่อถนนสำคัญๆ หลายเส้นทาง อาทิ ถนนเพชรเกษม ถนนบรมราชชนนี และถนนพระรามสอง ย่านเป็นแหล่งงานที่สำคัญของฝั่งธนบุรีและเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยที่ยังไม่หนาแน่นมากนัก เนื่องจากอยู่ใกล้เส้นทางตัดใหม่ โครงการบ้านย่านเพชรเกษมในโซนนี้ส่วนใหญ่จึงมีแต่บ้านระดับ Luxury เกิดใหม่ บรรยากาศโดยรอบมีความเป็นชุมชนชนบทซึ่งมีความเงียบสงบและมีพื้นที่สีเขียวอยู่เป็นจำนวนมาก ด้านความอุดมสมบูรณ์ต่อการกินอยู่ หากขยับเข้ามาทางถนนเพชรเกษมโซนนี้ขึ้นชื่อเรื่องความพร้อมสมบูรณ์ในการอยู่อาศัยอยู่แล้ว โดยมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ 2 แห่ง อย่าง เดอะมอลล์บางแค และซีคอนบางแค นอกจากนี้ยังมีคอมมูนิตี้มอลล์ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ตลาดสด ตลาดกลางคืนมากมาย หรือถ้าตรงไปยังเส้นบรมราชชนนี โซนนี้มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ 2,500 ไร่ อยู่ที่ พุทธมณฑล ให้มาเปลี่ยนสถานที่ในการออกกำลังกาย พักผ่อนกันครอบครัวได้ครับ
 

          แต่ถ้าจะพูดถึงการเดินทาง จากโครงการสามารถใช้ถนนพุทธสาคร ผ่าน 3 ถนนหลักๆ หากตรงไปเส้นพุทธมณฑล สาย 4 จะสามารถตัดเข้าถนนบรมราชชนนี ใกล้กับ ม.มหิดล ย่านนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารอร่อยๆ ห้างสรรพสินค้า ครบทุกความต้องการ ทั้งนี้ยังใช้ถนนพุทธสาครออกถนนหลักอย่างพระราม 2 ได้ง่ายด้วย และอีกหนึ่งเส้นทางคือ ถนนเพชรเกษม เป็นเส้นทางที่หลายคนใช้วิ่งเข้าเมืองไปทางบางแค ต่อรถไฟฟ้า MRT สถานีหลักสอง หรือจะวิ่งยาวออกสู่ถนนสาทรก็ได้ สำหรับใครที่มองหาบ้านย่านฝั่งธนเพชรเกษมที่จะเชื่อมต่อรถไฟฟ้าได้ง่าย บ้านคู่/บ้านแฝด เพชรเกษม โครงการ anya เพชรเกษม - สาย 4 เป็นอีกหนึ่งโครงการบ้านคู่ที่น่าสนใจ เพราะในอนาคต อีกไม่นานจะมีการพัฒนารถไฟฟ้า MRT ส่วนต่อขยาย จากสถานีหลักสองให้มาถึงย่านพุทธมณฑล สาย 4 ทำให้สามารถเชื่อมต่อรถไฟฟ้าได้ง่ายอีกโครงการหนึ่ง

▪ เพียง 3.5 กม. ถึง รร.สารสาสน์วิเทศพัชรมณฑล
▪ เพียง 8 กม. ถึง เทสโก้ โลตัส กระทุ่มแบน
▪ เพียง 9 กม. ถึง Big C อ้อมใหญ่
▪ เพียง 13 กม. ถึง รร. อัสสัมชัญธนบุรี
▪ เพียง 13 กม. ถึง รพ. เกษมราษฎร์ บางแค

ซุ้มประตูโครงการ

          ซุ้มประตูทางเข้าจะไม่เป็นกำแพงกั้นแบบเดิมๆ แต่จะประดับตกแต่งด้วยแท่นหินกรุด้วยหินธรรมชาติ มีป้ายชื่อโครงการ anya เพชรเกษม - สาย 4 ให้เห็นมาแต่ไกลเลยครับ มีการจัดสวนล้อมรอบสร้างภูมิทัศน์ให้สวยงามเหมือนกำลังจะเข้าสู่วิลเลจ ส่วนพื้นปูด้วยคอนกรีตแสตมป์ มีป้อม รปภ.อยู่ตรงกลาง เพื่อแยกทางเข้า – ออกรถ 2 ฝั่งชัดเจน
 

SECURITY SYSTEM
ระบบรักษาความปลอดภัย

          ทางเข้าโครงการจะแบ่งเป็นเลนสำหรับทางเข้าและออกอย่างชัดเจน เพื่อความสะดวกสบาย และถนนที่ห่างจากทางสัญจรหลักยังจะทำให้รถที่เข้าออกโครงการมีความปลอดภัยและไม่ไปรบกวนการจราจรภายนอกด้วย ลูกบ้านที่เข้าสู่โครงการสามารถผ่านด้วยระบบ Easy pass สำหรับผู้มาเยือนต้องแลกบัตรตามมาตรฐานโครงการ นอกจากนี้ยังมีกล้อง CCTV ที่คอยดูความเคลื่อนไหวคนเข้าออกโครงการอีกด้วยครับ และมี รปภ.คอยดูแลรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง อีกทีหนึ่งครับ
 

SALES GALLERY

          ถัดจากป้อม รปภ. เข้าไปจะเป็นส่วนของ Sales Gallery หรือสำนักงานขายครับ อาคารทรงสูงหน้าจั่วแหลม 2 ชั้น เป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโรงนาสไตล์ French Country แต่งเติมด้วยสีสันสดใสโทนสีฟ้าตัดกับสีเหลืองมัสตาด ตั้งตระหง่านเห็นได้ชัดเจนจากภายนอกเมื่อมองเข้ามา ตัวอาคารยังประกอบด้วย 2 ส่วน เชื่อมต่อกัน ส่วนแรกเป็นเรือนกระจกกึ่ง Outdoor และอีกส่วนจะเป็น Co-Living Space ปัจจุบันอาคารหลังนี้จะเป็นสำนักงานขาย แต่ในอนาคตจะมีการคืนพื้นที่เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งมุมพักผ่อนของลูกบ้าน ส่วนของสำนักงานขายจะเปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา เวลา 09.00 - 17.30 น. ผู้ที่สนใจจะมาเยี่ยมชมโครงการก็สามารถมาติดต่อตรงจุดนี้ได้เลย
 

ทางเข้าสู่ Sales Gallery ถูกจัดเป็นสวนป่าหย่อมๆ มีทางเดินที่สวยๆ โอบล้อมด้วยต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา และมีบ่อน้ำเล็กๆ ด้านข้างด้วย

           เมื่อเริ่มเดินเข้าสู่อาคารจะเจอพื้นที่กึ่ง Outdoor ตรงนี้มีลักษณะเป็นอาคารเรือนกระจกภายในตกแต่งเป็นธารน้ำล้อมรอบด้วยต้นไม้พุ่มเตี้ยๆ และมีที่นั่งรับลมชิลล์ๆ อยู่ใต้ชายคา เหมาะแก่การเซลฟี่

               ถัดเข้าไปภายในอาคาร จะเป็นโซน indoor พื้นที่ภายในกว้างขวางเพดานสูงโปร่ง ตกแต่งด้วยกระจกลูกฟักบานสูงสไตล์ยุโรป นอกจากความสวยงามยังช่วยให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามา ทำให้ห้องดูสว่างและรู้สึกกว้างขึ้นด้วย ภายในมีชุดเก้าอี้รับแขกรองรับผู้มาเยือนได้จำนวนหนึ่ง ส่วนการตกแต่งเป็นสไตล์วินเทจใช้โทนสีขาว สีพาสเทล และวัสดุธรรมชาติเป็นหลัก มีกลิ่นอายความอบอุ่นสไตล์บ้านในเขตหนาว

พื้นที่สีเขียวรอบโครงการ

            พื้นสีเขียวในโครงการอิงไปกับสไตล์ French Country มีการเลือกใช้ต้นสน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองหนาวมาเป็นองค์ประกอบหลักของสวน ผนวกกับไม้ดอก ไม้พุ่มเตี้ย เช่น ต้อยติ่งฝรั่ง หญ้าหางม้า ช่วยปรับภูมิทัศน์โครงการให้น่าอยู่มากขึ้น พื้นที่ส่วนกลางยังไม่หมดเพียงเท่านี้ แต่เราเก็บภาพมาให้ชมได้เพียงบางส่วน ยังมี คลับเฮาส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสนามเด็กเล่น
 

แบบบ้านโครงการ
บ้านคู่ anya เพชรเกษม - สาย 4

          บ้านคู่/บ้านแฝด เพชรเกษม anny เพชรเกษม - สาย 4 เป็นโครงการบ้านคู่ทั้งหมด จำนวน 260 ยูนิต บ้านถูกดีไซน์ใหม่มีเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์ anya เรียกว่าเป็น Home For All Functions ด้วยการผสมผสานแนวคิดใหม่ตอบรับกับ New Lifestyle มีบ้านให้เลือก 2 แบบด้วยกัน ดังนี้

◾ แบบบ้าน VEDA พื้นที่ใช้สอย 168 ตร.ม. หน้ากว้าง 8.5 เมตร 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

◾ แบบบ้าน EVA พื้นที่ใช้สอย 146 ตร.ม. หน้ากว้าง 7.5 เมตร 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

           "ความพิเศษของโครงการบ้านคู่/บ้านแฝด เพชรเกษม anya เพชรเกษม - สาย 4 คือลักษณะของบ้านแฝดที่ก่อสร้างแบบ Double Wall หรือระบบผนังสองชั้น ภายนอกอาจดูเสมือนว่ากำแพงทั้งสองบ้านใช้ร่วมกัน แต่แท้จริงแล้วแยกส่วนกันครับ ข้อดีคือช่วยเก็บเสียง ป้องกันเสียงไปรบกวนบ้านข้างๆ และการวางตำแหน่งบ้านแบบนี้เองจะช่วยตัดส่วนที่ไม่ค่อยได้ใช้งานทิ้งไป เป็นการเพิ่มขยายพื้นที่ว่างด้านข้างบ้านอีกฝั่งให้มากขึ้น ทำให้มีพื้นที่ว่างเพิ่มขึ้น เพื่อทำเป็นมุมพักผ่อน หรือทำเรือนกระจกสำหรับงานอดิเรกได้เลย และโดยปกติแล้วทางโครงการจะจัดสวนตามมาตรฐานมาให้ อย่างโครงการนี้สวนที่ทางโครงการจัดให้ก็จะอิงตามคอนเซ็ปต์บ้านในแถบยุโรป มีการปลูกต้นสน เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเมืองหนาว และภายในบ้านยังขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเหมาะแก่การอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็น ระบบ AirPlus, Motion Sensor, Magnetic Sensor และ Home Automation โดยสามารถเชื่อมต่อข้อมูลไปยังมือถือคอนโทรลได้ตลอดเวลา" 

          และวันนี้เราจะไปชมบ้านตัวอย่างพร้อมดูไอเดียการตกแต่งบ้านแฝดทั้ง 2 แบบด้วยกัน คือ แบบบ้าน VEDA พื้นที่ใช้สอย 168 ตร.ม. หน้ากว้าง 8.5 เมตร และแบบบ้าน EVA พื้นที่ใช้สอย 146 ตร.ม. หน้ากว้าง 7.5 เมตร ลองไปชมกันครับ

แบบบ้าน EVA
พื้นที่ใช้สอย 146 ตร.ม.

          เริ่มกันที่แบบบ้าน แบบแรก EVA บ้านคู่ 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 146 ตร.ม. บนที่ดินขนาด 38 ตร.ว. หน้ากว้าง 7.5 เมตร ฟังก์ชัน 2 ห้องนอนใหญ่ 3 ห้องน้ำ โถงรับแขกขนาดใหญ่ พื้นที่อเนกประสงค์ ห้องครัว และ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอยของบ้านเหมาะกับครอบครัวเริ่มต้น หรือคู่รัก
 

                  เริ่มกันที่หน้าบ้านกันก่อนครับ ด้วยโครงการได้รับแรงบันดาลใจมาจากสไตล์ French Country แบบบ้านจึงมีรูปทรงสไตล์ยุโรป มีส่วนที่เป็นปล่องไฟเป็นกิมมิกเล็กๆ Facade ประดับด้วยหินธรรมชาติตัดกับกรอบประตูสีขาว เพิ่มลูกเล่นน่ารักๆ ที่กรอบหน้าต่างซึ่งดูเหมือนบานประตูไม้ที่เปิดออก ชั้นล่างใช้กระจกบานใหญ่ เพื่อเปิดรับวิวทิวทัศน์ภายนอกรวมถึงยังทำให้บ้านสว่างมีความโปร่งสบาย สำหรับทางเข้าบ้านจะมีส่วนที่เป็นเฉลียงยื่นออกมากันฝนกันแดดได้และยังสามารถวางตู้เก็บรองเท้าของแขกที่หน้าบ้านได้ด้วย หน้าบ้านมีการเชื่อมต่อกับสวนทอดยาวไปจนถึงโซนซักล้างเลย อีกหนึ่งจุดเด่นคือส่วนของประตูทางเข้าบ้านจะไม่ใช้บานกระจกเหมือนเดิมแล้วแต่จะใช้เป็นประตูที่เป็นเทคโนโลยีจากญี่ปุ่น ล็อค 3 ชั้น นิยมใช้กับบ้าน Luxury ส่วนกรอบประตูและหน้าต่างยังมีการติดตั้งสัญญาณกันขโมย Magnetic Sensor เพิ่มความอุ่นใจในการอยู่อาศัยอีกด้วย

           เมื่อเปิดประตูเข้าไปโซนแรกจะพบกับ Foyer(โถงทางเข้า) โซนนี้มีกลิ่นอายวัฒนธรรมญี่ปุ่นเล็กๆ ซึ่งคนญี่ปุ่นเขาจะนิยมทำส่วนแรกของบ้านให้เป็นที่เก็บรองเท้า เก็บร่ม วางกุญแจ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน และตรงนี้จะมีช่องหน้าต่างที่สามารถเปิดออกได้บางส่วนช่วยทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูไม่อึดอัด

             ถัดมาจะเป็นโถงกว้าง ซึ่งโครงการตกแต่งให้เป็น Living Room เชื่อมต่อ Dining Room เพื่อให้เกิดไอเดียที่จะนำไปตกแต่งเอง ซึ่งบ้านจริงจะเป็นพื้นที่กว้างๆ ให้เราไปเลือกตกแต่งเองตามสไตล์การใช้งานของแต่ละครอบครัว สำหรับมุมแรกนี้เป็นมุมรับแขกที่จะวางโซฟายาวขนาด 3-4 ที่นั่ง ผนังตรงข้ามติดตั้งทีวีขนาดใหญ่ได้พร้อมชั้นวางของแบบบิวท์อิน ไม่ต้องเว้นระยะทางเดิน เนื่องจากโซนชั้นล่างจะมีการเว้นช่องทางเดินไว้ทางด้านข้างเพื่อเลี่ยงที่จะเดินตัดหน้าส่วนรับแขก เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนกันอีกด้วย สำหรับฟังก์ชันที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือในส่วนของ Bay window seat ตรงนี้ทางโครงการได้ก่ออิฐเป็นแนวที่นั่งริมหน้าต่างไว้แล้วสามารถที่จะหาเบาะผ้ามาวางใช้งานได้เลยครับ ส่วนหน้าต่างนั้นยังสามารถที่จะเปิดออกรับลมธรรมชาติได้อีกด้วย

             มุมรับประทานอาหารเชื่อมต่อมาจากมุมรับแขก ตรงนี้สามารถที่จะวางโต๊ะกินข้าวได้ครบทั้งครอบครัวพ่อแม่ลูก ทางโครงการได้บิวท์อินที่นั่งยาวตามแนวผนังได้ 2 ที่นั่งและมีโต๊ะกลางพร้อมเก้าอี้วางเพิ่มได้อีก 2 รวมเป็น 4 ที่นั่ง และมีการเว้นช่องทางเดินเข้าห้องน้ำและครัวไว้ค่อนข้างกว้างทีเดียว

          ถัดจากมุมรับประทานอาหารคือห้องน้ำชั้นล่าง มีชาวเวอร์สำหรับอาบน้ำให้ด้วย และยังทำพื้นต่างระดับไว้เพื่อให้น้ำไหลได้ดีขึ้น เราสามารถจะทำฉากกั้นเพิ่มได้แยกโซนเปียกและแห้งได้ทีหลัง

          มาดูที่โซนครัวกันบ้าง บ้านจริงทางโครงการได้ทำครัวปิดไว้พร้อมเตรียมระบบท่อน้ำดีน้ำทิ้งสำหรับซิงค์ล้างจาน และจุดติดตั้งเครื่องดูดควันไว้ให้ด้วย แต่ครัวปิดนี้ไม่ได้มีผนังทึบทั้งหมดนะครับ เขาทำเป็น See Thru Kitchen โดยกั้นกระจกไว้ตรงส่วนที่เชื่อมต่อกับโถงภายในบ้านเพื่อให้มองเห็นครัวภายในได้ ซึ่งข้อดีอย่างหนึ่งก็คือ แม่บ้านที่ทำครัวสามารถมองดูลูกๆ จากครัวได้เลย ถ้าเบื่อกระจกเดิมๆ ก็สามารถเพิ่มลูกเล่นได้เอง เช่น ทำเป็นกระจกบานเลื่อน ได้อีกด้วย

ภายในครัวมีมุมที่ลึกเข้าไปเพื่อทำเป็นมุมซักรีด มีการต่อท่อน้ำทิ้งออกสู่ภายนอกสำหรับเครื่องซักผ้าไว้ให้ด้วย

           อีกหนึ่งพื้นที่ชั้นล่างคือ Multi purpose area จุดเด่นคือมีช่องแสงรอบด้านและมีประตูที่เป็นกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่สามารถเชื่อมต่อกับสวนข้างบ้าน พื้นที่ใช้สอยกว้างสามารถกั้นเป็นอีก 1 ห้องนอนชั้นล่างเพื่อผู้สูงอายุได้เลย นอกจากนี้ยังทำเป็นมุม Work from home หรือมุมพักผ่อนจิบชากาแฟตามไอเดียที่ทางโครงการทำไว้เป็นตัวอย่างก็ได้ครับ

        ก่อนจะขึ้นสู่ชั้นสอง มาดูตรงโถงบันไดจะเป็นส่วนที่เป็นกำแพงใกล้เพื่อนบ้านข้างๆ ระหว่างบันไดจะมีช่องแสงที่เป็นแนวสูง ช่วยเพิ่มความสว่างในช่วงกลางวัน และตรงนี้เองยังมี Motion Sensor หรือไฟที่เปิดปิดเองอัตโนมัติเมื่อเราเดินขึ้นบันไดอีกด้วย

   โถงชั้นสองจะมีพื้นที่เล็กๆ หน้าห้อง ตรงนี้มีผนังว่างสามารถจะบิวท์อินชั้นวางของเพิ่มเติม หรือปล่อยโล่งๆ ติดงานศิลปะสักชิ้นก็ได้

แผงควบคุมการทำงานของระบบ AirPlus และระบบสัญญาณกันขโมย จะถูกติดอยู่ที่หน้าห้อง Master Bedroom

            มาดูที่ห้องนอนแรกกันเลยครับ สำหรับห้อง Master Bedroom บรรยากาศภายในจะโปร่งโล่ง จากช่องแสงที่มีด้วยกัน 3 จุด พื้นที่ภายในห้องกว้างสามารถวางเตียงขนาดใหญ่พร้อมเก้าอี้พักผ่อนเพิ่มเติมได้ ด้วยขนาดห้องที่กว้างขวาง ทำให้มี Space กว้างเหลือทั้งด้านข้างและปลายเตียง ทำให้สามารถวางชั้นวางทีวี ยังเหลือช่องทางเดินให้ผ่านเข้าออกได้อย่างสบาย ถัดเข้าไปด้านในเป็นพื้นที่ Walk-in Closet บริเวณหน้าห้องน้ำ สามารถบิวท์อินตู้เสื้อผ้าและมีที่วางโต๊ะเครื่องแป้งเป็นสัดส่วน ในส่วนห้องน้ำในห้องนี้ มีกระจกบานฟิกซ์ที่ให้เป็นลูกเล่นแบบ Sexy Bath ข้างในมีสุขภัณฑ์อัจฉริยะ และที่นั่งอาบน้ำพร้อมฉากกั้นโซน

             อีกหนึ่งห้องนอนรอง จะอยู่โซนหลังของบ้าน มีหน้าต่าง 2 จุด พื้นที่ห้องกว้างสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ 5-6 ฟุต ได้สบายๆ และมีพื้นที่ข้างเตียงที่ยังเหลือกว้างให้วางสิ่งของ ทางโครงการได้วางเตียงขนาด 5 ฟุต แล้วตกแต่งริมหน้าต่างเป็นมุมพักผ่อนไว้เป็นไอเดียให้ทำตามได้ครับ ส่วนภายในห้องมีห้องน้ำในตัวที่แยกฟังก์ชันเป็นสัดส่วนมาให้ด้วย

แบบบ้าน VEDA
พื้นที่ใช้สอย 168 ตร.ม.

          ต่อกันที่แบบที่สองกันบ้างครับ สำหรับแบบบ้าน VEDA บ้านคู่ 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 168 ตร.ม. ประกอบด้วย 2 ห้องนอนใหญ่ 3 ห้องน้ำ โถงรับแขกขนาดใหญ่ ห้องครัว และ 2 ที่จอดรถ ข้อแตกต่างอย่างแรกเลยก็คือ หน้าบ้านที่กว้างกว่ามีขนาดถึง 8.5 เมตร มีพื้นที่เหลือบริเวณลานจอดรถมากขึ้น ฟังก์ชันพื้นที่ภายในกว้างกว่าเดิม อีกทั้งยังมีโถงโล่งชั้นบนเปิดพื้นที่สำหรับทำเป็นมุมนั่งเล่นส่วนตัว แล้วแต่ไลฟ์สไตล์เลยครับ
 

            พื้นที่หน้าบ้านและกำแพงด้านข้างบ้าน รวมถึง Facade ที่ประดับด้วยหินธรรมชาติตัดกับกรอบประตูสีขาว อาจจะแตกต่างกันที่สีหน้ากากบ้านแค่นั้นครับ บ้านจริงจะมีรั้วกั้นแบบรางเลื่อนและมีกล่องใส่ขยะไว้ติดกับรั้วสามารถหย่อนขยะลงกล่องที่ยื่นออกมาได้เลย พนักงานเก็บจะเก็บขยะตรงช่องประตูด้านนอก โดยที่เราไม่ต้องเปิดประตูนำขยะออกไปให้ ตอบโจทย์ยุค New Normal มากๆ ส่วนรอบบ้านทางโครงการมีการจัดสวนมาตรฐานมาให้ ประตูทางเข้าเป็น Foyer ออกแบบ Luxury Concept และเชื่อมต่อกับสวนได้ด้วย

เปิดประตูบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่ Foyer ลักษณะเหมือนบ้านแบบแรก มีพื้นที่สำหรับเปลี่ยน-ถอดรองเท้าสไตล์ญี่ปุ่น

           โถงรับแขกถูกจัดวางในรูปแบบที่คล้ายกันคือ มุมรับแขกจะอยู่เชื่อมต่อกับโถงทางเข้า ซึ่งค่อนไปทางโซนกลางของบ้านโดยใช้เป็นโซฟายาว บวกกับเก้าอี้ด้านข้าง 1 ตัว ด้านหน้าบิวท์อินชั้นวางของ ส่วนฟังก์ชันอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Bay window seat มีให้เช่นเดียวกัน

ส่วนของ Bay window seat ก่ออิฐมาพร้อมแล้วแค่หาเบาะสวยๆ มาวาง ก็ใช้งานได้เลย

            ถัดจากมุมรับแขกก็เป็นส่วนของโต๊ะรับประทานอาหาร จะเห็นว่าโซนนี้จัดวางห่างกันพอสมควรมีทางเดินผ่านกว้าง สำหรับโต๊ะรับประทานอาหารถูกจัดไว้ 4 ที่นั่ง แต่สามารถขยายได้ถึง 6 ที่นั่งหรือวางเก้าอี้เพิ่มหัวโต๊ะเพิ่มได้อีก ด้านหลังทางโครงการบิวท์อินตู้เก็บของไว้เป็นไอเดียอีกด้วย ส่วนห้องน้ำจะอยู่โซนถัดไป ห้องน้ำในโซนนี้จะมีครบทุกฟังก์ชันเลยทีเดียว เพื่อรองรับการใช้งานในอนาคต

           ถัดไปดูที่ห้องครัวกันบ้างครับ สำหรับบ้านหลังนี้โครงการจะดีไซน์ให้ครัวมีบาร์ที่เชื่อมต่อโซนรับประทานอาหาร ซึ่งเป็นไอเดียที่น่าสนใจ เพราะสามารถขยายโซนรับประทานไปได้อีกหนึ่งมุมเลย ไว้สำหรับนั่งรับประทานอาหารเช้าช่วงเวลาสั้นๆ ส่วนพื้นที่ครัวจริงจะเป็นครัวปิดที่มีผนังเป็นกระจกบานใหญ่ที่เผยให้เห็นถึงด้านใน เมื่อเข้าสู่ครัวจะมีช่องที่ระบายอากาศรวมถึงช่วยระบายกลิ่นออกสู่นอกบ้านเพื่อไม่ให้เข้ามารบกวนภายในด้วยครับ

มุมซักล้างจะอยู่ในบริเวณเดียวกันกับครัว โดยมีส่วนที่ลึกเข้าไป และเชื่อมต่อประตูหลังบ้าน สะดวกมากๆ เวลาที่ต้องนำผ้าไปตาก

           อีกหนึ่งไอเดียสำหรับ Multi purpose area ทางโครงการได้ตกแต่งไว้เป็นห้องทำงาน พร้อมมุมพักสายตา โดยมีช่องแสงขนาดใหญ่ 2 จุดด้วยกัน และเปิดออกเชื่อมต่อสวนด้านข้างได้ หากในอนาคตมีสมาชิกในบ้านเพิ่มยังทำเป็นห้องนอน หรือทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุก็ลงตัว

              ตัวบันไดโครงการคอนกรีตเสริมเหล็ก วางตำแหน่งอยู่ช่วงติดกับเพื่อนบ้านเช่นกัน มีช่องแสงขนาดใหญ่ที่มีแนวยาวทำให้แสงสว่างจากธรรมชาติเข้ามาได้มาก ช่วยประหยัดไฟช่วงกลางวัน นอกจากนี้ยังมี Motion Sensor โดยไฟจะเปิดปิดได้เองอัตโนมัติเมื่อเราเดินขึ้นบันได ดีไซน์สวยงาม

          โถงชั้นบนของบ้าน Type นี้ มีพื้นที่กว้างเป็นพิเศษ สามารถใช้ประโยชน์ได้มากกว่า เช่น ทำเป็นมุมทำงาน หรือมุมตัดเย็บสำหรับงานอดิเรกได้เลย เนื่องจากมีช่องแสงที่กว้างเหมาะต่องานที่ต้องใช้สายตามากๆ

      แผงควบคุมการทำงานของระบบ Air Plus และระบบสัญญาณกันขโมย จะถูกติดอยู่ที่หน้าห้อง Master Bedroom สำหรับนวัตกรรมนี้จะช่วยถ่ายเทอากาศออกสู่หลังคาทำให้บ้านเย็นขึ้นและเปลี่ยนอากาศที่อยู่ในบ้าน

         มาดูห้องนอนหลักของบ้านกันก่อนครับ ห้องนี้มี Space เหลือเฟือสามารถจัดฟังก์ชันได้เยอะขึ้น พื้นที่กว้างโปร่งสบาย มีที่สำหรับวางเตียงตรงกลางขนาด King Size โดยด้านข้างยังเหลืออีกมาก นำมาทำเป็นมุมพักผ่อนเล็กๆ หรือวางโซฟาดูทีวีได้ สำหรับที่ว่างอีกฝั่งสามารถทำเป็นมุมทำงาน หรือบิวท์อินตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ตลอดแนวผนังก็จะได้ฟังก์ชันเก็บของมากขึ้น ส่วนปลายเตียงมีที่วางเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวทำเป็นที่วางทีวีในระยะดูแบบสบายตา ส่วนห้องน้ำภายใน Master Bedroom แบ่งเป็นสัดส่วนมีครบฟังก์ชันรวมถึงมีที่นั่งอาบน้ำและฉากกั้นให้ด้วย สำหรับสุขภัณฑ์เป็นฝารองนั่งระบบอัตโนมัติ

            อีกหนึ่งห้องมีขนาดพื้นที่กว้างไม่แพ้กัน ห้องนี้จะอยู่ฝั่งหลังบ้าน มีการวางตำแหน่งของเตียงเป็นแนวขนานไปกับกำแพง ซึ่งเตียงเป็นเตียงแบบบิวท์อินขึ้นมามีช่องเก็บของด้านล่างและปลายเตียงทำเป็น Day Bed หากเป็นเตียงแบบลอยตัวก็สามารถจะเพิ่มฟังก์ชันปลายเตียงได้ ด้วยการวางตู้เก็บของแทนก็ได้ครับ สำหรับห้องนี้มีห้องน้ำในตัวด้วย เพิ่มความสะดวกสบายและเป็นส่วนตัว

    ห้องนี้มีห้องน้ำส่วนตัวที่จัดให้ครบทุกฟังก์ชันพร้อมฉากกั้นแบ่งโซนเปียกและแห้งให้เลย และมีพื้นที่วางสบู่ แปรงสีฟัน อุปกรณ์อาบน้ำแบบไม่ต้องเจาะกำแพงเพิ่มเลยครับ

รายละเอียดโครงการ

สรุปจุดเด่น บ้านคู่/บ้านแฝด 
เพชรเกษม anya เพชรเกษม - สาย 4

          "เป็นอย่างไรบ้างครับกับโครงการ บ้านคู่/บ้านแฝด เพชรเกษม anya เพชรเกษม - สาย 4 เท่าที่ผมได้ลองสัมผัสมาแล้ว ต้องยอมรับว่าโครงการนี้มีฟังก์ชันการใช้งานเปลี่ยนไปจากเดิมมากเรียกว่าครบทุกความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ อย่าง Foyer สไตล์ญี่ปุ่นสามารถเก็บรองเท้าได้ทั้งข้างนอกสำหรับแขก ข้างในสำหรับสมาชิกในบ้าน และอีกหนึ่งฟังก์ชันที่จำเป็นในชีวิตประจำวันอย่างห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างพื้นที่ค่อนข้างกว้างและมีช่องแสงเพียงพอสามารถเปลี่ยนการใช้งานให้เป็นห้องคุณพ่อคุณแม่ในอนาคตได้ ส่วนมุมรับแขกก็ตอบโจทย์การใช้งานส่วนตัวมีมุมที่เลี่ยงเดินผ่านได้ นอกจากนี้ยังมีการนำเอานวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเอื้ออำนวยในชีวิตประจำวัน แต่สิ่งหนึ่งที่แลนด์แอนด์เฮ้าส์ค่อนข้างแข็งแรง คือ การสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นน่าประทับใจ ทัศนียภาพที่สวยงามตามสไตล์เมืองในฝัน และยังมีอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ ซึ่งผมจะขอสรุปเป็นข้อๆ แบบนี้ เผื่อใครที่กำลังมองหาบ้านมีดีไซน์ ทำเลศักยภาพ ก็ลองนำไปพิจารณาดูนะครับ"

◾ บ้านดีไซน์ใหม่ French Country Style

◾ Double Wall การดีไซน์ผนังแยกเพื่อป้องกันเสียง เพิ่มความเป็นส่วนตัว

◾ เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อการอยู่อาศัย อาทิ AirPlus, Motion Sensor, magnetic sensor และ Home Automation

◾ ระบบความปลอดภัยสูงสุด Triple Security

◾ พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่พร้อมคลับเฮาส์ ผสมผสานสถาปัตยกรรมสไตล์ Village District

◾ ทำเลที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกและแหล่งงาน เชื่อมต่อเข้า-ออกเมืองสะดวก

------------------

หากสนใจโครงการ anya เพชรเกษม - สาย 4

สามารถนัดเยี่ยมชมโครงการได้ทุกวันตั้งแต่เวลา เวลา 09.00 - 17.30 น. หรือโทร 1198

พิกัดโครงการ : https://goo.gl/maps/uWjfv6KxcwtRYAMu7

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor