สถานีสะพานตากสิน สถานียอดฮิตที่ใครๆ ก็รู้จักแถมยังเป็นสถานีรถไฟฟ้าแห่งแรกในกรุงเทพมหานครที่เชื่อมต่อกับการสัญจรทางเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยจ้า เรียกว่าเป็นสถานีที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้ใช้บริการกันเป็นจำนวนมากเลยครับ เนื่องจากสถานีนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายรอบสถานีเลยครับ บอกเลยว่ามาลงสถานีนี้เที่ยวได้ครบทุกโลเคชั่นสวยๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและมีมุมถ่ายรูปชิคๆ รอบกรุงเก่าเพียบเลยครับ

            เมื่อมาถึงเจริญกรุงก็ต้องมาที่นี่เลยครับซอยเจริญกรุง 30 ก็จะพบกับ Street Art สุดแนวของย่านนี้เลย เนื่องจากที่นี่เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมเก่าแก่ทั้ง ไทย จีน ฝรั่ง มุสลิม แฝงไปด้วยเสน่ห์ของกรุงเก่า ทั้งประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม ที่นี่จึงกลายเป็นย่านสร้างสรรค์ที่เต็มไปด้วยผลงานศิลปะมากมายที่ใครมาก็ต้องหลงรัก ว่าแล้วก็ต้องแชะภาพกันไว้สักหน่อย

Street Art

            มาต่อกันที่จุดแชะสุดชิคที่เราอยากชวนมาเก็บภาพกันจ้าที่ไปรษณีย์กลางบางรัก เป็นอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในเขตบางรัก อาคารนี้เคยถูกใช้งานเป็นสถานกงสุลอังกฤษ และที่ว่าการกรมไปรษณีย์โทรเลข ตัวอาคารมีลักษณะโดดเด่นและสวยงามมากๆ ปัจจุบันอาคารถูกใช้เป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการของไปรษณีย์ไทย บุคคลทั่วไปสามารถเดินทางชมภายในอาคารส่วนโถงตรงกลาง ซึ่งใช้จัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนของไปรษณีย์ไทย และสามารถเข้าชมศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ในส่วนสาธารณะ ได้แก่ ห้องจัดนิทรรศการบริเวณด้านหลังของอาคาร สวนดาดฟ้าสาธารณะ (Public Rooftop Garden) บอกเลยว่าต้องมาให้ได้จ้า 

ไปรษณีย์กลางบางรัก

             มาต่อที่โกดังเก่าที่ถูกรีโนเวทให้เป็นที่สุดคูลกับ Warehouse 30 ซึ่งมีทั้งหมด 8 โกดัง โดยเป็นอาคารสำนักงานของตระกูลชวนิชย์เจ้าของที่ดิน ถูกจัดเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ย่อมๆซึ่งมี

Co-Working Space สำหรับนั่งทำงาน มีคาเฟ่ให้เราได้เข้าไปชิม ช้อป และยังทำกิจกรรมสนุกๆ ได้อีก

Warehouse 30

            ดินลัดเลาะมาเรื่อยๆในตรอกกัปตันบุช ก็จะพบกับบ้านเลขที่ ๑ บ้านเก่าแก่ในสมัยรัชกาลที่ 5 เรียกว่ามีอายุกว่า 100 ปี เลย สวยเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปยุคนีโอคลาสสิก แต่ถูกปล่อยทิ้งร้างจนได้มีการบูรณะฟื้นฟูกลับขึ้นมา ใครผ่านไปมาก็คงไม่พลาดที่จะเก็บภาพเอาไว้แน่นอน 

บ้านเลขที่ ๑

             เดินมาเรื่อยๆ ก็จะเจออีกมาสุดชิคที่ต้องสะดุดตากับ สถานีสูบน้ำ ที่มีกราฟฟิกตี้ได้ปรับเปลี่ยนผนังธรรมดาให้กลายเป็นผนังสีเหลืองสุดชิคที่เล่าเรื่องราวความเป็นอยู่ของคนในชุมชนตลาดน้อยครับ บนผนังของสถานีสูบน้ำกรุงเกษม

สถานีสูบน้ำกรุงเกษม

            มาต่อกันที่ โบสถ์กาลหว่าร์ ที่มีอายุกว่า 128 ปี โบสถ์ที่แฝงตัวอยู่ในย่านตลาดน้อย สวยเด่นกว่าใครด้วยสถาปัตยกรรมแบบกอธิกที่ส่วนหน้าจะเป็นยอดแหลมพุ่งสูงและประดิษฐานไม้กางเขน ขอบซุ้มประตูหน้าต่างเน้นโครงสร้างทรงโค้งแหลม โบสถ์หลังนี้คือโบสถ์หลังที่ 3 ที่สร้างขึ้นใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1890 - 1891 ตามเจตนารมณ์ของคุณพ่อ เอเตียน บาร์เทโลมี แดส์ซาลส์ เจ้าอาวาสชาวฝรั่งเศส หลังจากโบสถ์ 2 หลังแรกทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนอนุรักษ์เป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากรแล้ว ชื่อโบสถ์ ‘กาลหว่าร์’ ที่ฟังดูแปลกหูนี้เป็นชื่อที่ถูกเปลี่ยนใหม่ในภายหลังหรือจะเรียกว่าเพี้ยนก็ได้ โดยเพี้ยนมาจากชื่อของโบสถ์หลังแรกที่ชื่อว่า ‘โบสถ์กาลวารีโอ’ ซึ่งตั้งตามชื่อภูเขาที่พระเยซูถูกตรึงไม้กางเขน
ความเก่าแก่ของโบสถ์ทำให้รู้สึกถึงความขลังและศักดิ์สิทธ์อย่างบอกไม่ถูก แต่ในแง่ของสถาปัตยกรรมก็ต้องบอกว่าสวยงามและคลาสสิกสุดๆ ต้องมากันให้ได้นะสำหรับที่นี่

โบสถ์กาลหว่าร์

             มาถึง ชุมชนตลาดน้อย ที่อยู่อาศัยของชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน เดิมเป็นตลาดที่คึกคักมาก โดยเรียกกันในภาษาแต้จิ๋วว่า "ตั๊กลักเกี้ย"และ มีที่มาจากเจ้าสัวเนียม หรือเจ๊สัวเนียม ผู้เป็นเจ้าของที่ดินแถบนี้มีลูกสาวคนหนึ่งชื่อ "น้อย" เป็นท่าเรือและชุมชนที่รุ่งเรืองก่อนเยาวราช โดยมีชาวโปรตุเกส เป็นชนกลุ่มแรกที่เข้ามาอาศัยอยู่ จากนั้นจึงตามมาด้วยชาวจีน, ชาวญวน รวมถึงเขมรมาปักหลักอาศัย

       ปัจจุบันตลาดน้อยเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ด้วยความเก่าแก่ของอาคารสถานที่ และวิถีชีวิตของผู้คนที่ยังคงเหมือนเดิมเช่นในอดีตอยู่ โดยมีถนนสายหลัก คือ ถนนเจริญกรุง บนพื้นที่ติดกับแขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในซอยเจริญกรุง 22 หรือ ตรอกตลาดน้อย ภายในซอยมีหลายสถานที่ ๆ ได้รับความสนใจ เช่น ศาลเจ้าโจวซือกง, บ้านโซวเฮงไถ่ บ้านโบราณที่มีอายุกว่า 200 ปี เรียกว่าเป็นโลเคชั่นฮอตฮิตที่หลายๆ คนชอบมาถ่ายรูปกันเลยครับ

ชุมชนตลาดน้อย

                 ลัดเลาะมาเรื่อยๆ จนถึง บ้าน โซว เฮง ไถ่ ตั้งอยู่ในบริเวณตลาดน้อย โดยมีการออกแบบเป็นบ้านสถาปัตยกรรมจีนแบบ "สี่เรือน ล้อม ลาน" ของพระอภัยวานิช (เจ้าสัวจาด) นายอากรรังนกชาวจีนฮกเกี้ยน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2340 ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน บ้านมีอายุมากกว่า 220 ปี และอยู่ในการดูแลขอทายาทรุ่นที่ 8 ของพระอภัยวานิช ตระกูลโปษยะจินดา ที่ยังอนุรักษ์บ้านหลังนี้ไว้เพื่อเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของชุมชน ขณะเดียวกันก็ได้ปรับปรุงพื้นที่ลานกลางบ้านให้เป็นโรงเรียนสอนดำน้ำ ที่นี่ถือว่าเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีผู้คนมาถ่ายรูปและเช็คอินกันเพียบด้วยความคลาสสิกที่เหมือนใครจนทำให้ต้องมาตามรอยให้ได้เลยจ้า

บ้าน โซว เฮง ไถ่

                ปิดท้ายด้วย วัดยานนาวา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับ BTS สะพานตากสิน วัดนี้เป็นวัดโบราณสมัยอยุธยาเรียกว่าเก่าแก่มาก จุดเด่นของวัดคือเรือสำเภาลำใหญ่ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง ใครมาที่นี่อยากลืมมากราบไหว้ขอพรกันนะ

วัดยานนาวา

              นอกจากสถานที่จะสวยแล้ว โลเคชั่นรอบสถานีสะพานตากสินยังถือเป็นแหล่งรวมเรื่องราวในอดีตมากมายที่ให้เราต้องมาสัมผัสและเข้ามาค้นหาเลย สำหรับใครที่จะมาเเชะภาพแบบชิคๆ บอกเลยว่าคงต้องเดินกันจนเหนื่อยแน่นอน แนะนำให้พกเครื่องดื่มเย็นๆ มาคลายร้อนกันด้วยนะ ถ้าไม่รู้ว่าจะทานอะไรดี เราก็มีเครื่องดื่มสุดฉ่ำรสชาติใหม่จากอิชิตันให้ได้ชิมกันกับ เย็นเย็นรสสละพุทราจีน เมนูหวานอมเปรี้ยวดื่มเเล้วเย็นชื่นใจ เดินเที่ยวได้ทั้งวันแบบไม่เหนื่อยแน่นอน หาซื้อกันได้ง่ายๆ ที่ 7-Eleven ทุกสาขา ในราคา 15 บาท เท่านั้นจ้า

" เย็นเย็นรสสละพุทราจีน "
หาซื้อกันได้ง่ายๆ ที่ 7-Eleven ทุกสาขา ในราคา 15 บาท เท่านั้นจ้า

Powered by Froala Editor